คุณกล้าซื้อสินค้าของร้านตัวเองไหม?
วิธีทําการตลาด ที่ดี เริ่มต้นที่สินค้าดี คำถามคือ คุณกล้าซื้อสินค้าของร้านตัวเองไหม?
คำตอบมี 3 อย่าง คือ
1. กล้าสิ ของฉันดี ทุกอย่างที่ฉันทำมันมาจากการค้นขว้า และคัดสรร ส่วนผสม/วัตถุดิบนุ่นนี่ นี่นั่นก็ดี เกรดพรีเมียม หาที่อื่นไม่ได้ บลาๆ
2. ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจว่า สินค้าเรามันดีตรงไหนบ้าง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าสินค้าที่ขายดีจริง มีคุณภาพจริง ใช้ของดีจริง
3. ไม่กล้า (แต่จะบอกคนอื่นว่ากล้า) เพราะคุณรู้ของๆคุณห่วย ไส้ในมันมีที่มาที่ไปยังไง ไม่ผ่านมาตรฐาน หรือใช้ของเกรดต่ำ
อย่าโกหกตัวเองนะครับ ถ้าคุณโกหกตัวเอง คุณก็จะไปโกหกลูกค้าต่อ คนที่จะเสียประโยชน์คือคุณเองนั่นแหล่ะ!!
หลายคนไม่มั่นใจในสินค้าที่ตัวเองขายเลยแม้แต่น้อย
ก่อนจะขายของทุกอย่าง คุณต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ซะก่อน เพราะ 3 คำตอบนี้มีผลต่อยอดขายของคุณในอนาคตแน่นอน
เพราะอะไรหน่ะหรอครับ ก็เพราะว่า?
คุณจะต้องเคลียร์กับตัวเอง
หากคุณมั่นใจว่าของที่คุณขายนั้นดีจริง คุณจะกล้านำเสนอ พรีเซนต์ขายต่อลูกค้าด้วยความสนิทใจ ไม่กังวล รู้ว่าข้อดีที่ควรพูดคืออะไร ตรงข้ามกัน หากสินค้าคุณห่วย คุณจะพูดกว้างๆเข้าไว้ พูดเยอะกว่าปกติ (เพราะพูดแต่คุณสมบัติทั่วไป) ลูกค้าก็จะฟัง แต่ทำหน้างงๆ สรุปมันดีตรงไหน เหมาะกับฉันหรือเปล่าเนี่ย?
คุณจะต้องเคลียร์กับลูกน้อง
การทำธุรกิจ การทำการตลาด ไม่ว่าออนไลน์หรือออฟไลน์ คือการทำบอกข้อดี จุดเด่นของสินค้าหรือบริการไปในทิศทางเดียวกัน เกิดการอิมแพ็คในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พนักงานขาย ลูกน้อง แอดมินเพจ ทุกคนที่เกี่ยวกับงานขาย การตลาด ต้องรับรู้ถึงจุดเด่น ข้อดีของสินค้าหรือบริการ จึงจะนำเสนอขายกับลูกค้าได้ดี
หากคุณเองไม่เคลียร์ ลูกน้องคุณก็ไม่มีทางเคลียร์จุดนี้แน่นอน และทุกคนก็จะชักแม่น้ำทั้ง 5 มา เพื่อปิดการขาย นั่นทำให้คุณดูไม่มีแบรนด์ ไม่มีจุดเด่นสุดๆ
คุณจะต้องเคลียร์กับตัวแทนจำหน่าย
ตัวแทนจำหน่ายทุกคนต้องการเติบโต มีรายได้ตามที่เขาต้องการ แต่ออกแรงน้อยกว่า แต่คาดหวังสูง (จริงไหมครับ) นั่นแสดงว่าคุณยิ่งต้องเคลียร์จุดเด่น จุดแข็งสินค้าของคุณกับเขาให้มากๆ ชัดๆ โดยที่เขาสามารถเข้าใจแก่นของสินค้าตัวนี้ได้ จนเขาสามารถนำจุดนี้ ไปบอกต่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่าสินค้านี้ สำคัญต่อชีวิตเขาแค่ไหน
คุณจะภูมิใจ และมุ่งมั่นในการขายโคตรๆ
เพราะคุณรู้ว่าของคุณดีจริง คุณภาพดี ออกแบบดี วัตถุดิบดี (ไม่จำเป็นต้องดีทุกข้อ เอา 1 ข้อก็สะแด่วสุดๆแล้ว) ทุกอย่างที่คุณพูด หรือแสดงออกมาทางสีหน้า น้ำเสียง แม้กระทั่งการพิมพ์ จะออกมาดีมากๆ ภาษาอังกฤษ เรียก Proud To Present สุดๆ
สรุปก็คือคุณภาพของสินค้านั้นสำคัญในทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะยุคไหน หรือขายผ่านช่องทางไหน เรื่องเบสิกที่หลายคนมองข้ามไป ถ้าสินค้า หรือบริการของเรายังไม่ดีพอ คุณจะต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้มันดีพอ ความหลงไหลในสินค้าและบริการนั้นๆ จะทำให้คุณพัฒนามันอยู่เสมอ และการสอบถาม เก็บข้อมูลจากลูกค้านั้นสำคัญมากๆ
หากคุณเปิดร้านเบเกอรี่ ขนมของร้านคุณมันต้องดีมากพอ มากจนคุณภูมิใจ จนสามารถพูดกับลูกค้าทุกคนว่า
ซื้อมันกลับบ้านสักชิ้นนะครับ ผมรับรองว่าพี่จะต้องกลับมาซื้ออีก
อยากมียอดขาย ใจต้องสู้ สู้สู้ครับ
